วิธีหาเงินจากการพนัน ไล่ผลาญตำนานนักต่อย มวยรองบ่อน ต่อ ให้ 12 กิโล ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์

โจ หฝ่าส์ เป็นนักต่อยรุ่นเฮฟวี่เวตคนประเทศอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมา หมัดของเขาหนักระดับคว่ำคู่ต่อยได้ด้วยการต่อยแย็บปกติ

ไม่จำเป็นต้องใช้หมัดตรง ไม่จำเป็นต้องใช้หมัดฮุก ก็สามารถปิดบัญชีได้ง่ายอย่างยิ่ง ความยอดเยี่ยมของเขาเป็นสิ่งที่นักมวยอย่าง มูฮัมหมัด อาลี และก็ ไมค์ ไทสัน ยังจำต้องยอมยอมรับ อย่างไรก็ดี กลับมีนักต่อยรองบ่อนสมญานาม

เด็กน้อยที่พิตสเบิร์ก ชายผู้ไม่เคยต่อยระดับเฮฟวี่เวตเลยแม้กระทั้งไฟต์เดียว ซึ่งจำเป็นต้องมาขึ้นสังเวียนกับ โจ หฝ่าส์ ในฐานะบันไดที่มาเพื่อเอนเตอร์เทนแฟนคลับจากการโดน โจ หฝ่าส์ ไล่ผลาญ ที่สุดแล้วไฟต์ที่การต่อน้ำหนัก

12 โลจบลงเช่นไร? รวมทั้งอะไรทำให้ไฟต์นี้ถูกชูให้เป็นอีกหนึ่งไฟต์อมตะสุดคลาสสิกตลอดไปของแวดวงมวยโลก ติดตามพอดีนี่ความโหฬารของ The Brown Bomber โจ หฝ่าส์ ชื่อนี้บางทีอาจจะเป็นชื่อของนักมวยรุ่นแชมป์เฮฟวี่เวตที่ไม่ชินหูคนประเทศไทยมากสักเท่าไรนัก

แต่สำหรับคนอเมริกันแล้ว นี่เป็นนักต่อยที่เป็นวีรบุรุษของประเทศ โจ มาจากครอบครัวชั้นแรงงานที่ย้ายจากเมืองเล็กๆในเมือง อลาบาม่า เข้ามาหางานทำในเมืองดีทรอยต์ เมืองไม่ชิแกน จากการเช็ดกคุกคามเรื่องสีผิว เวลานั้นเขาแก่เพียงแค่

12 ปี แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องเริ่มดำเนินการช่วยครอบครัวแล้ว อาชีพของ โจ เวลานี้เป็นการเป็นเด็กส่งน้ำแข็ง เมื่อความอัตคัดมันน่าสยดสยองรวมทั้งการส่งน้ำแข็งทำให้เขายังจะต้องอดอยาก โจก็เลยใช้ระยะเวลาข้างหลังเลิกงานเข้าไปฝึกหัดชกมวยกับศูนย์ความสนุกสนานและก็ปรับปรุงเยาวชนเขตแดน

พร้อมความมุ่งหวังว่าการเลือกใช้แรงอย่างงี้ จะนำพาไปสู่ทางที่ถูกแล้วก็ทำเงินได้มากกว่าการชูน้ำแข็งไปวันๆโจ หฝ่าส์ เป็นคนตัวใหญ่ที่หมัดหนักและก็มีความรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เขาก็เลยปรับปรุงตนเองได้เร็วทันใจในตอนการต่อยระดับสมัครเล่น

ภายในช่วงเวลาเพียงแค่ ปี ก็แปลงเป็นยอดมวยรวมทั้งครอบครองรางวัลนวมทอง หรือที่เปรียบเสมือนจุดสุดยอดของชีวิตนักมวยฝึกหัด รวมทั้งเขาก็เทิร์นโปรตอนอายุ 20 ปี ทุกสายตาจ้องการเข้ามาของผู้ครอบครองสมญานาม เดอะ

บราวน์ บอมบ์เบอร์ เพราะเหตุว่าเขาเป็นมวยจำพวกหมัดหนักแบบธรรมชาติ ว่ากันว่านักต่อยอย่าง โจ เฟรเซียร์, ร็อคกี้ มาร์เซียโน หรือ ไมค์ ไทสัน ที่ถูกชื่นชมว่าพลังหมัดร้ายแรงโดนจังๆน็อคแน่ๆ ยังมีความแตกต่างกับหมัดของ

โจ หฝ่าส์ ด้วยเหตุว่าหมัดของ โจ นั้นสามารถน็อคคู่ปรับได้โดยการต่อยแบบปกติ ต่างกับอีกทั้ง คนก่อนหน้าที่ผ่านมาที่หนักด้วยความแรงจากการปลดปล่อยหมัด หฝ่าส์ ไล่เก็บคู่ปรปักษ์ไล่มาเรื่อยไม่ว่าจากอีกทั้งยุโรป

อเมริกาใต้ หรือแม้กระทั้งมวยอเมริกันดีๆก็เสร็จ โจ หฝ่าส์ หมด จนถึงในที่สุดก็ได้แชมป์รุ่นเฮฟวี่เวตมาครอบครองจากการคว่ำ เจมส์ กางรดด็อค ในปี 1937 จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านเขาได้อีกเลย ไฟต์สร้างชื่อของ โจ

หฝ่าส์ ที่เลื่องลือไปทั้งโลกเป็นการเอาชนะ มักซ์ ชเมลิ่ง นักต่อยจากเยอรมันในสมัยที่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แล้วก็ ท้องนาซี ยังดูแลประเทศ ซึ่งในไฟต์เมื่อปี 1938 นั้นเป็นการเจอะกันของ มวยที่เหมาะสมที่สุดจากแต่ละฟากโลก

และก็เสมือนเป็นการศึกย่อยๆอย่างยิ่งจริงๆ เนื่องจากในด้านการบ้านการเมืองรวมทั้งการทหาร สหรัฐฯ แล้วก็ เยอรมัน ก็ยังมีเรื่องตึงๆกันเสมอ ตัวของ โจ นั้นเคยแพ้ ชเมลิ่ง มาแล้ว ครั้ง เมื่อ ปีกลายหน้านี้ แถมยังเป็นความปราชัยทีแรกบนสังเวียนอีกด้วย

แต่ว่าคราวนี้ซึ่งเป็นไฟต์ล้างตา โจ ฝึกหัดหนักมากกว่าเดิม แล้วก็มั่นใจว่านี่เป็นการพนันระดับประเทศ แล้วก็มันทำให้เขาเอาชนะ ชเมลิ่ง ได้ด้วยการน็อคตั้งแต่ชูแรก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่การันตีได้ว่าหมัดของเขาหนักจริง

เป็นข่าวสารที่ว่า มักซ์ ชเมลิ่ง ซึ่งโดน โจ หฝ่าส์ ซัด หมัดเน้นย้ำๆกระทั่งแพ้น็อค จะต้องรักษาตัวข้างหลังไฟต์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นเวลานานกว่า เดือนอย่างยิ่งจริงๆ โน่นเป็นเรื่องที่ทำให้ โจ หฝ่าส์ เป็นวีรบุรุษของคนอเมริกัน

แล้วก็แทบจะไม่เคยมีนักมวยผู้ใดกันแน่ที่เข้ามาเป็นงานยากของเขาเลย โจ หฝ่าส์ ทำสถิติคุ้มครองแชมป์เฮฟวี่เวตได้นานที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยช่วงเวลากว่า 11 ปี... นี่เป็นเรื่องราวรวมทั้งสถิติความโหฬารของ โจ

หฝ่าส์ ความมีชัยของเขาทำให้ผู้แพ้ทุกคนแทบจะผิดเอ๋ยถึง ตามคำบอกเล่าที่ว่าไม่มีผู้ใดจำคนแพ้ แต่ว่าจะต้องชูให้ คนเป็นกรณีพิเศษ นักต่อยที่เข้ามาเป็นราวกับบันไดให้ โจ หฝ่าส์ เก็บสถิติเพิ่ม และก็น็อคโชว์แฟนมวย...

เขาเป็น ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ นักต่อยผิวขาวคนประเทศอเมริกาที่เป็นมวยรองบ่อนที่สุดคนหนึ่งที่ โจ จำเป็นต้องออกแรงต่อยด้วย ไอ้แห้งจากพิตสเบิร์ก ก่อน เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น หรือ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ จะเกิดรวมทั้งเปลี่ยนเป็นเมกกะที่แวดวงมวย

มีเวทีที่ชื่อว่า โปโล เกรียวกราวด์ เวทีแล้วก็สนามที่จุผู้ชมได้กว่าครึ่งแสนชีวิต ในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานั้นมีเพียงแต่ครั้งเดียวที่ผู้ชมแตะต้องหลักถึง หมื่นคน โน่นเป็นไฟต์ระหว่าง แจ็ค เด็มพ์ซี่ย์

ตำนานนักต่อยของอเมริกิน กับ หฝ่าส์ ฟิร์โป้ ในปี 1923 แต่ว่าในไฟต์ระหว่าง โจ หฝ่าส์ กับ ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ นักต่อยที่แพ้มากมายว่า 10 ไฟต์ ในปี 1941 นั้นกลับได้รับความพึงพอใจในระดับเดียวกันแบบไม่น่าเชื่อ

ถึงแม้ว่าระดับความใกล้เคียงก่อนขึ้นสังเวียนแทบไม่เห็นจังหวะของผู้ท้าแข่งเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะด้วยเรื่องสถิติ, สไตล์, กิตติศัพท์ หรือตัวก่อนขึ้นเวที ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ มาได้ยังไง? แล้วก็กล้าเจอหน้ากับ

โจ หฝ่าส์ ทำไม? โน่นเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการรู้ เนื่องจากความด้อยกว่าเรื่องน้ำหนักตัวที่มากถึง 25 ปอนด์ (12 โล) น้ำหนักตัวของ คอนน์ แรกเริ่มอยู่ที่ 170 ปอนด์ แม้กระนั้นเขาจำเป็นต้องทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นสุดชีวิตเพื่อได้

180 ปอนด์ สำหรับต่อยในรุ่นเฮฟวี่เวตคราวแรกกับ โจ หฝ่าส์ ซึ่งการต่อน้ำหนักอย่างนี้ เกือบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พวกเราจะได้มองเห็นจากมวยรอง แล้วก็นั่นเองเป็นเหตุผลที่แฟนคลับทั่วราชอาณาจักรต้องการจะมองเห็น

จะมีอะไรสนุกสนานไปกว่าการได้มองเห็นวีรบุรุษของประเทศไล่ผลาญรอบเวทีให้เป็นแก้วตาดวงใจสักหนึ่งครั้ง ผมทราบดีว่าเขาจะสู้ด้วยแนวทาง Hit and Run (ต่อยแล้วชิ่ง) แม้กระนั้นผมจะบอกให้ว่า เขาสามารถวิ่งไปไหนก็ได้

แม้กระนั้นในเวทีเขาหนีผมไม่พ้นหรอก โจ หฝ่าส์ กล่าวก่อนขึ้นสังเวียน แล้วก็ตัวของ ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ เองก็คิดว่า โจ มิได้พูดเล่นๆความหวาดกลัวแผ่กระจายเมื่อขึ้นเวทีแล้วก็มองเห็นเขาอยู่ที่อีกฝั่ง สีหน้าท่าทางของเขามันบอกอารมณ์ทำนองว่า

รีบขึ้นมาเร็วๆพวกเราจะได้รีบๆต่อย รีบๆกลับไปอยู่บ้าน ใบเสร็จรับเงินลี่ ชี้แจงถึงออร่าบางสิ่งก่อนขึ้นสังเวียน ไม่มีผู้ใดได้กลับไปอยู่ที่บ้านเร็ว...เสียงระฆังดังขึ้น โจ หฝ่าส์ ประพฤติตามความตั้งอกตั้งใจและก็ออร่าพลังที่แบออกมา

เขาต้องการจะกลับไปอยู่ที่บ้านเร็วๆ... ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขาทำร้ายที่พุงของ วิธีหาเงินจากการพนัน ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ กระทั่งแทบจุกในชูแรก ต่อจากนั้นชูลำดับที่สอง คอนน์ จะต้องหนีแบบเดียว สไตล์ Hit and Run ไม่สมบูรณ์เนื่องจากเขาเกือบจะมิได้ออกหมัดชัดๆเลย

แม้กระทั้งหมัดแย็ปก็ตาม อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อเริ่มชู คอนน์ กลับมาเป็นข้างกลับเกมแบบไม่น่าเชื่อ เขาเปลี่ยนแปลงจากถอยหนีเป็นการเต้นฟุตเวิร์ก ขยับเขยื้อนตัวแปลงท่าอย่างสม่ำเสมอแล้วก็ว่อง และก็เริ่มปลดปล่อยหมัดจิ้มเข้าหน้าเข้าตา

โจ หฝ่าส์ ได้แบบแปลงเป็นคนละคน เว็บ The Fight City มานะชี้แจงว่าการต่อยในวันนั้นของ คอนน์ อย่างกับสไตล์ พริ้วเสมือนผีเสื้อ ต่อยเจ็บราวกับผึ้ง ที่เกิดแล้วก็ดังในอีก 20-30 ปีที่ผ่านมาโดย มูฮัมหมัด อาลี ไม่เคยทราบว่าเนื่องจากว่าด้วยน้ำหนักที่ด้อยกว่าหรือเปล่าที่ทำให้

คอนน์ โยกหลบหม้ดของ โจ หฝ่าส์ ราวของสนุกสนาน รวมทั้งหมัดของเขาคมขึ้นเรื่อยชูที่ ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ ทำให้เข่าของ โจ จำเป็นต้องทรุด จากการปลดปล่อยหมัดขวาตรงเข้าที่เข้าทางหน้า นอกเหนือจากการต่อยแล้วหนี

คอนน์ ยังตระเตรียมอีกสิ่งมา โน่นเป็นการตั้งรับที่แน่นแฟ้นอน ไม่เปิดโอกาสให้โดนต่อยกล้วยๆหรือถึงแม้ว่าจะโดนต่อย การ์ดของเขาก็จะขวางไปหมด จนถึง โจ หฝ่าส์ ที่มีหมัดหนักโดยธรรมชาติต่อยไม่ตรงเป้า พลังความแรงก็เลยลดไปมากไม่น้อยเลยทีเดียวระดับ

30-50% อย่างยิ่งจริงๆ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างได้เปรียบ แฟนมวยเริ่มสนุกสนานกับการต่อยของใบเสร็จรับเงินลี่ มวยรองที่พวกเขามารอดูโดนยำ เขาเริ่มได้รับเสียงเชียร์และก็ต่อยเจริญขึ้นบ่อย ว่ากันว่านับตั้งแต่ชู ถึงชู

12 คะแนนของ ใบเสร็จรับเงินลี่ นั้นนำลิ่วประเภทที่ว่าตอนที่เหลืออีก ชู (สมัยนั้นไฟต์ชิงชนะเลิศจำเป็นต้องสู้กันถึง 15 ชู) โจ หฝ่าส์ จะต้องน็อคเอาต์เขาให้ได้เพียงแค่นั้น ไม่เช่นนั้น โจ หฝ่าส์ จะเสียแชมป์ให้กับมวยรองบ่อนที่ไม่มีผู้ใดกล้ารู้สึกว่าจะชนะวีรบุรุษของประเทศอย่างเขา

โจ มึงเสร็จฉันแล้วว่ะ ใบเสร็จรับเงินลี่ เริ่มเชื่อมั่นกับผลที่กำลังจะเกิดขึ้น ถึงแม้ขณะนั้น โจ หฝ่าส์ จะใจดีสู้เสือ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นความรู้สึกพลาดที่เขาเลือกขึ้นสังเวียนไฟต์นี้ ผมบกพร่องจริงๆที่เลือกขึ้นสังเวียนไฟต์นี้

ผมทราบดีว่า คอนน์ เป็นคนตัวเล็กๆและก็ผมเองก็ไม่ต้องการให้สื่อเอาไปเขียนว่า ผมไล่ต่อยไอ้แอ้ดที่แหน่งใดจนกระทั่งหมดสภาพ ก่อนต่อยไฟต์นั้น ผมจำต้องออกไปวิ่งเรียกเหงื่อ ดื่มน้ำให้ต่ำที่สุด เพื่อลดหุ่นให้น้อยกว่า

200 ปอนด์ให้ได้ มันเป็นอะไรที่ตรากตรำอยู่บ้าง แต่ว่าขณะนั้นผมคิดจริงๆว่า คอนน์ เป็นนักต่อยที่ฉลาดหลักแหลม เขาจะสู้ราวยุง เป็นเขามากัดคุณและก็บินหนี สิ่งที่ โจ คิดไว้ก่อนต่อยเป็นจริงทั้งหมดทุกอย่าง โดยยิ่งไปกว่านั้นชู

7, รวมทั้ง นั้น ใบเสร็จรับเงินลี่ เร็วขึ้นเรื่อยอีกทั้งหมัดอีกทั้งฟุตเวิร์กจนถึง โจ หฝ่าส์ เปิดตำราเรียนรับไม่ทัน และก็เป็นไปอย่างงั้นจนกระทั่งชูที่คลาสสิกที่สุดในประวัติศาสตร์มวยโลก... ชูที่ 13 คลาสสิก…ชูที่

13 เป็นชูที่ ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ กำลังจะแปลงเป็นตำนานมวยโลก อีกไม่กี่ก้าวไม่กี่ชูจากนี้ เขาจะเปลี่ยนเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวตด้วยการคว่ำนักต่อยขวัญใจชั้น ของประเทศ สมองของเขาลอยละล่องไปไกลถึงไหนต่อไหน

ภาพในอดีตกาลจากการปิดยิมฝึกแบบเอาจริงเอาจังเพื่อไฟต์นี้สลายไป เหลือแค่เพียงแค่การเลือกอนาคตว่า เขาจะชนะ โจ หฝ่าส์ ด้วยแนวทางไหนดี? ก่อนขึ้นชูที่ 13 จอห์นนี่ เรย์ คนดูแลของ ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ ตบที่ไหล่เขารวมทั้งเพียรพยายามจะกล่าวว่าอย่างไรเสียก็ชนะแน่

ทำอย่างเดิม ตั้งรับ อยู่ให้ห่าง และก็สวนกลับให้ไว... แต่ทว่า ใบเสร็จรับเงินลี่ หันมายักขนคิ้วให้และก็ตอบกลับว่า ไม่ล่ะ ผมจะเดินลงไปน็อคเขาในชูนี้ เฮ้ย ใบเสร็จรับเงินลี่ นี่ โจ หฝ่าส์ นะโว้ย มึงห้ามประเมินนักมวยคนนี้ต่ำเด็ดขาด

เพียงแค่คิดจะแลกหมัดกับเขาก็ไม่ถูกแล้ว ถอยออกมาให้ห่างจากเขาซะ แล้วนายจะชนะไฟต์นี้แน่ๆเชื่อฉันสิ เรย์ แผดเสียงเป็นหนสุดท้ายก่อนระฆังเริ่มชู 13 จะดังขึ้น แต่ว่า ใบเสร็จรับเงินลี่ ยักไหล่ราวจะกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงหรอกน่า

เมื่อมองเห็นแบบนั้น เรย์ หันมางึมงำกับตนเองว่า ชีวิตมึง มึงเลือกเองตามใจ แฟนคลับกว่า 55,000 คน ไม่เคยมีความรู้สึกว่าจะได้มองเห็นสิ่งนี้กับตาตนเอง เนื่องจากระฆังชูที่ 13 ดังเป๊ง ใบเสร็จรับเงินลี่ เดินจ้ำเข้าพบ

โจ หฝ่าส์ ในทันที การฝันกลางวันว่าจะคว่ำตำนานของมวยโลกทำให้เขาประมาทโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อ ใบเสร็จรับเงินลี่ เลือกเดินเข้าพบก็ราวกับการส่งกล่องของขวัญมอบให้กับ โจ หฝ่าส์ ด้วยเหตุว่าอยู่ๆผู้ที่หลบเขาได้ตลอดกลับเดินมาเข้าระยะทำของเขาเสียอย่างงั้น

โจ หฝ่าส์ กระแทกลำตัวราวกับในชูแรก ทำให้ คอนน์ เซ ก่อนที่จะตามซ้ำด้วยซ้ายอีกหนึ่งครั้งให้เซหนักกว่าเดิม เวลานี้ โจ หฝ่าส์ ทราบว่าถึงเวลาปิดบัญชีแล้ว แล้วหมัดซ้ายเปรี้ยงเดียวที่ร้ายแรงอย่างกับความอัดอั้นตันใจที่จำต้องทนโดนต่อยมาถึง

12 ชูได้ระเบิดออกมา... ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์ เจ้าแห้งที่พิตสเบิร์ก ล้มลงกับพื้นและก็ในที่สุดถูกนับ 10 แพ้ไปสุดท้าย ผมดังคนไม่มีหัว รวมทั้งหัวของผมหายไปพร้อมๆกับเงิน ล้านเหรียญ... ใบเสร็จรับเงินลี่ คอนน์

เผยคราวหลัง หมัดซ้ายและก็ขวา ฟุตเวิร์กที่เร็วทันใจ และก็จังหวะเข้าออกที่ตรงเผงตลอด 12 ชูก่อนหน้าที่ผ่านมาของ ใบเสร็จรับเงินลี่ ปราศจากความหมาย เนื่องจากว่าท้ายที่สุดแล้วคะแนนพวกนั้นผิดเอามานับเลยภายหลังที่เขาถูกนับ

10 ไป แม้กระนั้น ไฟต์นี้ถูกชมเชยให้เป็นไฟต์ที่ดีเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์มวยโลกชั่วกัลปวสานไฟต์หนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ โจ หฝ่าส์ ชี้ให้เห็นว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่การออกหมัด เพียงแค่คุณต่อยเขารวมทั้งต้อนเขาได้

มิได้แสดงว่าเขาจะแพ้ หมัดแปลกประหลาดของ โจ หฝ่าส์ เปรี้ยงเดียวที่ศีรษะของ คอนน์ ทำให้ คอนน์ เห็นภาพต่างๆรวมทั้งความบกพร่องของตนที่เลือกจะทิ้งเป้าหมายที่ฝึกซ้อมมา รวมทั้งคลายอารมณ์ไปกับเสียงเชียร์และก็เหตุการณ์บนเวทีเกินความจำเป็น

นี่เป็นไฟต์ที่เขาใกล้ความปราชัยสูงที่สุด... แม้กระนั้นท้ายที่สุดเขาก็ยังไม่แพ้ เพราะเหตุว่าความห้าวหาญเกินความจำเป็นของ คอนน์ รวมทั้งพลังหมัดที่มากเหลือเกินของตัว โจ หฝ่าส์ เองด้วย เมื่อ โจ หฝ่าส์ เดินลงเวที

เขาพบกับผู้จัดการของเขา โจ ยิ้มให้และก็ถามคำถามว่า คืนวันนี้กลืนน้ำลายไปกี่อึกแล้ว (เนื่องจากความหวาดเสียว) ผู้จัดการของเขายังไม่ทันตอบดี โจ หฝ่าส์ เดินไปที่หอพัก ด้วยเหตุว่าเขาเองก็ถามไปแบบนั้นล่ะ ความเป็นจริงเขาทราบดีว่ากองเชียร์เต็มปริมาตรของ โปโล กราวเกรียวด์ ต่างก็นั่งไม่ติดเ